เปรียบเทียบ "ยางซิลิโคน" กับ "ยางพารา" สำหรับทำแม่พิมพ์

30 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หมวด About

ในงานประติมากรรม หัตถกรรม งานศิลปะ และอุตสาหกรรมการหล่อ (Mold Casting) วัสดุที่นิยมใช้ในการทำแม่พิมพ์มากที่สุดคือ ยางซิลิโคน (Silicone Rubber) และ ยางพารา (Natural Latex Rubber) วัสดุทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ใช้ในการทำแม่พิมพ์แบบถอดได้ และสามารถเก็บรายละเอียดผิวของชิ้นงานได้ดี แต่ก็มีข้อแตกต่างหลายประการที่สำคัญ

1. ภาพรวมของวัสดุ

  • ยางซิลิโคน (Silicone Rubber) : ยางซิลิโคนเป็นวัสดุ สังเคราะห์ ที่มีโครงสร้างทางเคมีแบบโพลีเมอร์ซิลิโคน นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานสูง และเหมาะกับการทำแม่พิมพ์ซับซ้อน เพราะสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม มีความยืดหยุ่น ทนต่อความร้อนและสารเคมีหลายชนิด
  • ยางพารา (Natural Latex Rubber) : ยางพาราเป็น  วัสดุธรรมชาติ สกัดจากต้นยางพารา มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูงเช่นกัน และมีข้อดีในเรื่องต้นทุนต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถใช้ทำแม่พิมพ์สำหรับงานทั่วไปที่ไม่ต้องการความทนทานสูง เช่น หน้ากาก งานละครเวที โมเดลที่ใช้ครั้งเดียว

2. เปรียบเทียบคุณสมบัติ

หัวข้อยางซิลิโคนยางพารา
 แหล่งที่มา สังเคราะห์จากซิลิโคนโพลิเมอร์  ธรรมชาติ จากต้นยางพารา
 ลักษณะการใช้งาน ผสม 2-3%  แล้วเทลงแม่พิมพ์หรือทา ทาทีละชั้น (มักใช้พู่กัน), รอแห้งแต่ละชั้นก่อนทาชั้นถัดไป
 การเก็บรายละเอียดผิว เยี่ยม – คมชัดในระดับไมครอน ดีพอสมควร – แต่อาจเสียรูปหากทาไม่สม่ำเสมอ
 ความยืดหยุ่น สูงมาก, เด้ง, คืนรูปง่าย  ยืดหยุ่นสูง แต่บางสูตรเหนียว หรือขาดง่ายเมื่อบางเกินไป
 ความทนทาน อายุการใช้งานนาน (2–10 ปี), ทนเคมี ทนร้อน เสื่อมสภาพไว (6–12 เดือน), ไม่ทนเคมีหรือความร้อนสูง
 เวลาการแห้งตัว เร็ว 20 – 30 นาที ระยะเวลาแห้ง4- 6 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสูตร) ช้า 6–24 ชั่วโมงต่อชั้น
 ความหดตัว ต่ำมาก (0.1–0.3%) หดตัวสูงกว่า (1–5%), อาจส่งผลกับขนาดแม่พิมพ์
 ความเข้ากันกับเรซิ่น ใช้กับเรซิ่นได้ทุกชนิด (อีพ็อกซี่, โพลีเอสเตอร์, ยูรีเทน) ไม่ควรใช้กับเรซิ่น – อาจทำให้ไม่แห้ง หรือพิมพ์เสีย
 กลิ่น/การแพ้ กลิ่นอ่อน, ปลอดภัย (บางสูตรใช้กับอาหารได้) มีกลิ่นเฉพาะตัว, ผู้ที่แพ้โปรตีนยางพาราอาจเกิดอาการระคายเคืองได้
 ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ย่อยสลาย (แม้ปลอดสารพิษในสูตรบางชนิด) ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

3. ตัวอย่างการใช้งานจริง

ยางซิลิโคน เหมาะกับงานแบบใด?

  • แม่พิมพ์เรซิ่น / อีพ็อกซี่ / โพลีเอสเตอร์
  • แม่พิมพ์สบู่ เทียน ยิปซั่ม
  • โมเดล 3D ความละเอียดสูง
  • งานศิลปะถาวร / งานผลิตซ้ำหลายชิ้น
  • งานหล่ออาหาร (ต้องใช้เกรด Food Grade)

ยางพารา เหมาะกับงานแบบใด?

  • แม่พิมพ์หน้ากาก / หุ่นละครเวที
  • งานหล่อปูนพลาสเตอร์
  • งานฝึกหัด / งานต้นทุนต่ำ
  • แม่พิมพ์ที่ต้องการขนาดใหญ่แต่เบา
  • งานที่ไม่ใช้เรซิ่น (ยางพาราไม่เหมาะกับเรซิ่น)

4. ข้อดีและข้อเสียโดยสรุป
ยางซิลิโคน
ข้อดี

  • ทนความร้อนและสารเคมี
  • ใช้กับเรซิ่นได้ทุกชนิด
  • อายุการใช้งานนาน
  • รายละเอียดชัดมาก
  • เหมาะกับงานผลิตซ้ำ

ข้อเสีย

  • ราคาสูง
  • ต้องผสม อัตราส่วนอย่างแม่นยำ
  • หากเก็บไม่ดี อาจเสื่อมเร็วหลังเปิดใช้งาน

ยางพารา
ข้อดี

  • ราคาถูกกว่า
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • ยืดหยุ่นสูง
  • เหมาะกับแม่พิมพ์ที่ใช้ชั่วคราว
  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องผสมหลายส่วน

ข้อเสีย

  • แห้งช้า ต้องทาหลายชั้น
  • หดตัวมากกว่าซิลิโคน
  • ไม่ทนความร้อน
  • ไม่เหมาะกับการหล่อเรซิ่น

5. คำแนะนำการเลือกใช้งาน

ลักษณะงานที่ต้องการคำแนะนำวัสดุ
 งานละเอียดสูง / โมเดล 3D / เรซิ่น ใช้ ยางซิลิโคน
 งานต้นทุนต่ำ / งานฝึกหัด / งานชั่วคราว ใช้ ยางพารา
 งานที่ต้องการทนความร้อนสูง ใช้ ยางซิลิโคน
 งานที่ใช้แล้วทิ้ง / แม่พิมพ์ขนาดใหญ่ ใช้ ยางพารา   
 งานผลิตแม่พิมพ์จำนวนมาก ใช้ ยางซิลิโคน
 ต้องการวัสดุธรรมชาติ / ลดขยะ ใช้ ยางพารา   

 

สรุปท้ายบทความ
      แม้ ยางซิลิโคน และ ยางพารา จะดูคล้ายกันในแง่ของการทำแม่พิมพ์ แต่ทั้งสองวัสดุมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านคุณสมบัติ การใช้งาน และวัตถุประสงค์ ยางซิลิโคนมีความยืดหยุ่น ทนทาน เหมาะกับงานละเอียดและใช้งานซ้ำ ส่วนยางพาราเน้นประหยัด ยืดหยุ่น และเหมาะกับงานชั่วคราวหรืองานที่ไม่ใช้ความร้อนหรือสารเคมีรุนแรง

การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพ คุ้มค่า และปลอดภัยที่สุด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้